เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะทรงตัดสินพระทัยออกบวชเพื่อค้นหาอมตะธรรม พระองค์ทรงบวชทั้งกายและใจ และอบรมกายอบรมจิตอย่างยิ่งยวด แม้ต้องเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อบรรลุพระโพธิญาณพระองค์ก็หาได้หวั่นไหวไม่ จนพระองค์สามารถดับกิเลสและตัณหาได้หมดสิ้น และตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ในที่สุด พระจริยวัตรของพระองค์นั้นสงบระงับ และสง่างาม พระองค์จึงทรงป็นแบบอย่างอันเลิศ แด่พระสาวกและสาธุชนทั้งปวง
แต่ในปัจจุบันนี้ กลับมีการนำพระองค์มาเป็นตัวตลกในการ์ตูน หนัง และละคร นำพระองค์มาล้อเลียน โดยสร้างบทให้มีอากัปกิริยาหรือวาจาอันไม่เหมาะสม ให้ผู้ชมขบขันในพฤติกรรมต่างๆ แบบปุถุชนทั่วไป ซึ่งการกระทำนี้เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมด้วยเหตุดังต่อไปนี้
1. เป็นการหมิ่นพระเกียรติ และลบหลู่พระพุทธเจ้า เพราะตัวละครทำในสิ่งที่ตรงข้ามกับวิสัยของนักบวช และผู้บรรลุธรรม
2. เป็นการส่งเสริมให้คนขาดความเคารพต่อพระบรมศาสดา การนำพระองค์มาล้อเลียน ย่อมทำให้คนดูขาดความยั้งคิด มองเพียงเพื่อความบันเทิง จนขาดความเคารพต่อพระพุทธเจ้า
3. ส่งผลต่อจิตใจของพระพุทธศาสนิกชน ทำให้เกิดความเศร้าใจต่อการกระทำเช่นนี้ และเป็นการหมิ่นศรัทธาของชาวพุทธ
4. สร้างความขัดแย้งให้กับสังคม เพราะบางคนเห็นว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล ที่จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับหนังหรือการ์ตูนเช่นนี้ ทำให้สังคมเกิดความแบ่งแยก
5. ผู้คนอ้างหลักธรรมเรื่องการปล่อยวางในทางที่ผิด จากที่บอกให้ปล่อยวาง ไม่ยึดติดกับความเป็นพระพุทธเจ้า แท้จริงแล้วการปล่อยวาง คือการวางจากอารมณ์ยึดมั่นถือมั่นในรัก โลภ โกรธ หลง แต่ไม่ควรปล่อยวางในสิ่งที่ต้องแก้ไข เพราะการเห็นสิ่งผิดแล้วไม่แก้ไข คือการปล่อยปละละเลย
6. เป็นการบั่นทอนศรัทธาและทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมถอย เพราะบางคนอาจคิดเลยเถิดว่า พระพุทธเจ้าไม่เคยมีอยู่จริง เป็นเพียงหนังหรือละครที่สร้างขึ้นมาเพื่อทำให้คนเชื่อ ซึ่งการคิดแบบนี้ย่อมทำให้ความศรัทธาต่อพระพุทธศาสาสั่นคลอนและทำให้พุทธศาสนาเสื่อมถอยในที่สุด
โปรดพิจารณาช่วยกันบอกกล่าวตักเตือน และหยุดยั้งการกระทำที่ไม่สมควรต่อพระบรมศาสดาและพระพุทธศาสนาด้วยเถิด