top of page

Special Moral Lecture to Foreign Students at Mahidol University

Special Moral Lecture to Foreign Students at Mahidol University เปิดมิติใหม่ของธรรมบรรยายสู่นักศึกษานานาชาติ (โปรดอ่านภาษาไทยด้านล่าง)

Knowing Buddha Organization had an opportunity to organize special moral lecture to students and staffs at the Research Institute for Languages and Cultures of Asia (RILCA), Mahidol University on October 3. It was the first time that the lecture had lived stream on the university’s channel, IPTV, which broadcasted through the network of university center and other campuses. Most of the listeners are foreign undergrads who have come to study Thai language and culture and are able to understand Thai in different levels, including listeners from various faculties in Mahidol university such as Faculty of Social Sciences and Humanities, Faculty of Medicine Siriraj Hospital, Faculty of Nursing and The Institute of Molecular Biosciences (MB). In the first session, Mr. Kulanart Teeprapannee clarified about the Five Precepts (refraining from killing or harming living things, stealing, sexual misconduct, lying or gossip and taking intoxicating substances) and the consequences of breaking the precepts with a solid example related to daily life of students. Then Mr. Naruta Wachira-amornlert, the second lecturer who can speak Chinese, explained about the Ten Meritorious Acts in Thai and Chinese to provide clear understanding to Chinese students. The students were interested in the lecture and took notes as well. Here’s are some comments from the students and staffs. “As I had wrong understanding, sometimes I have done things that breaks the precepts. I will try to do it right from now on.” (Chinese student) “When in Rome, do as Romans do. Although I’m not Buddhist, I respect and have an understanding of Buddhism and its good teachings.” (Japanese student) “This makes me learn to think twice, take time to consider before doing things and to forgive. If there is any chance, I would like to listen to the lecture again.” (Staff of the university) Knowing Buddha Organization 5 December 2018

----------------

เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา องค์กรโนอิ้ง บุดด้าได้รับเกียรติให้นำทีม CSR เข้าจัดธรรมบรรยายเพื่ออบรมศีลธรรมและจริยธรรม ในหัวข้อ ‘ชีวิตรุ่งเรื่องด้วยศีล สำเร็จด้วยสมาธิและปัญญา’ ให้กับนักศึกษาและบุคลากร สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล โดยการประสานงานจากอาจารย์จิติกานต์ จินารักษ์ นักวิชาการดนตรีไทยของสถาบันฯ การบรรยายครั้งนี้ถือเป็นโฉมใหม่ของการบรรยายที่มีผู้ฟังส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาต่างชาติ และมีการถ่ายทอดสดเป็นครั้งแรก ผ่านช่องทาง IPTV ของมหาวิทยาลัยมหิดล ผ่านเครือข่ายศูนย์การแพทย์ สถาบันทางการแพทย์ ทั้งส่วนกลางและวิทยาเขตต่าง ๆ เนื่องจาก ผู้ฟังส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาต่างชาติระดับปริญญาตรีที่มาเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมไทย ที่มีความสามารถในการใช้ภาษาไทยทั้งการฟัง พูด อ่าน เขียนได้หลากหลายระดับ นอกจากนี้ ยังมีผู้สนใจจากหลากหลายส่วนงานในมหาวิทยาลัยมหิดล ได้แก่ ภาควิชาศาสนาและการพัฒนา คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ สถาบันชีววิทยาศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล คณะพยาบาลศาสตร์ โรงเรียนสาธิตนานาชาติ สถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน สถาบันโภชนาการ สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย และจากการประชาสัมพันธ์สื่อออนไลน์ทำให้มีผู้สนใจจากมหาวิทยาลัยอื่น ๆ เช่น มหาวิทยาลัยบูรพา และมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และผู้ประกอบการบริษัท เข้าร่วมฟังบรรยายด้วย การบรรยายของทีมวิทยากรจึงเป็นสิ่งท้าทายที่จะสื่อสารให้ผู้ฟังที่มีความหลากหลาย ซึ่งทีมวิทยากรสามารถทำหน้าที่ถ่ายทอดได้อย่างลึกซึ้ง เข้าใจได้ง่าย สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง และเสียงตอบรับจากผู้เข้าฟัง ต่างแสดงความคิดเห็นขอบคุณ และชื่นชมที่มีการบรรยายธรรมที่เป็นประโยชน์กับการใช้ชีวิตอย่างมาก นอกจากผู้ฟังจะได้รับความรู้ ความเข้าใจในเรื่องการปิดประตูบาป เปิดประตูบุญ กระตุ้นจิตสำนึกในการใช้ชีวิตอย่างปกติสุข จากการบรรยายเรื่องพลังแห่งศีล 5 และบุญกิริยาวัตถุ 10 ผู้เข้าฟังยังได้ฝึกสมาธิเบื้องต้นจากวีดิทัศน์ชุด Spiritual Life รวมทั้งชมวีดิโอ Buddha is our father ซึ่งเกี่ยวกับการนำพระรูปพระนามมาใช้อย่างไม่เหมาะสมอีกด้วย รศ. ดร.ขวัญจิต ศศิวงศาโรจน์ ผู้อำนวยการสถาบันกล่าวต้อนรับ คุณลัคพงศ์ เพิ่มพูน Stage Manager กล่าวแนะนำองค์กรฯ และวัตถุประสงค์ แนะนำทีมงานจิตอาสา ประวัติท่านประธานองค์กรฯ ผลงานที่ผ่านมา และการได้รับรางวัลเสาอโศกผู้นำศีลธรรมในฐานะผู้ที่ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง วิทยากรท่านที่ 1 : คุณกุลนาถ ทีปประพันธ์ณี ได้เล่าประสบการณ์เทคนิคการท่องจำสูตรคณิตศาสตร์ คำศัพท์ภาษาอังกฤษ และเนื้อหาการเรียน โดยใช้วิธีหลับตาแล้วท่อง จะทำให้จดจำได้ผลดีมาก ซึ่งนี่ก็คือการทำสมาธินั่นเอง ศีลข้อที่ 1 ไม่ฆ่าสัตว์และไม่เบียดเบียนผู้อื่น ผิดศีลหรือไม่ ให้ดูที่เจตนา การฆ่าสัตว์เล็ก เช่น ยุง มด ก็ผิดศีลให้หลีกเลี่ยง ศีลข้อที่ 2 ไม่ลักทรัพย์ไม่ขโมยของคนอื่น การขโมยลิขสิทธิ์คนอื่น ลอกข้อสอบ เป็นการผิดศีลขโมยสติปัญญาของผู้อื่น เป็นการขโมยโอกาสตัวเองในอนาคต ทำให้การทำงานไม่เจริญรุ่งเรือง ศีลข้อ 3 ไม่ไปผิดประเวณีคนอื่น แย่งของคนอื่นมา คนที่โดนแย่งมาเป็นทุกข์ คนที่ไปแย่งเขามาก็เป็นทุกข์ไม่สบายใจเหมือนตกนรกทั้งเป็น ศีลข้อ 4 ไม่โกหก ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดคำหยาบ เรามักจะผิดศีลข้อนี้ง่ายที่สุด การให้ความคิดเห็นกับข่าว social การส่งต่อ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ทราบเลยว่าจริงหรือไม่จริง เป็นการผิดศีล ศีลข้อ 5 ไม่เสพของมึนเมา เพราะเมื่อเมาจะขาดสติ ทำให้ผิดศีลได้ทุกข้อ วิทยากรท่านที่ 2 : คุณนฤต วชิรอมรเลิศ ด้วยความสามารถและประสบการณ์จากงานอาชีพที่ตัวเองทำ เป็นพนักงานต้อนรับชั้น first class ของการบินไทย คุณนฤตได้กล่าวทักทายน้อง ๆ เป็นภาษาจีน และที่พิเศษมากกว่านั้น คุณนฤตได้แปลหัวข้อของบุญกิริยาวัตถุ 10 แต่ละหัวข้อเป็นภาษาจีนด้วย การทำบุญ 3 ข้อแรก ทาน ศีล ภาวนา ชาวพุทธทำกันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่วันนี้เราจะมาทำบุญด้วยกันถึง 10 ข้อ ในระหว่างการบรรยายบุญกิริยาวัตถุทั้ง 10 ข้อ คุณนฤตได้พูดภาษาไทยและจีนสลับกันไปมา น้อง ๆ นักศึกษาให้ความสนใจ จดบันทึกเนื้อหาการบรรยาย และมีความประทับใจเป็นอย่างมาก ความคิดเห็นนักศึกษาและบุคลากรหลังฟังการบรรยาย “ในบางครั้งก็มีพลั้งเผลอด้วยความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง เคยทำหลายอย่างที่ผิดศีล... ต่อไปจะพยายามทำให้ดีขึ้น” (นักศึกษาจีน) “เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม แม้ดิฉันไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ แต่ดิฉันก็รู้สึกเคารพและได้รู้จักความคิด ข้อคิดที่ดีจากศาสนาพุทธ” (นักศึกษาญี่ปุ่น) “ทำให้เราใจเย็น มีความคิดรอบคอบ และให้อภัยมากขึ้นค่ะ อยากฟังการบรรยายอีกค่ะ ถ้ามีโอกาส” (บุคลากรมหาวิทยาลัย) คำกล่าวของทีมวิทยากร “เป็นการบรรยายที่เต็มไปด้วยความเซอร์ไพรส์จริง ๆ เดิมทีสถาบันภาษามีแต่นักศึกษาปริญญาโทและเอก ก็เตรียมข้อมูลมาอีกแบบ พอไปถึงมหาวิทยาลัยก็เป็นนักศึกษาปริญญาตรี แถมเป็นต่างชาติทั้งหมดอีก จึงต้องเปลี่ยนจากภาษาไทยเป็นไทยจีน (เลี่ยงบาลีขนานแท้) เพื่อให้นักศึกษาทุกท่านเข้าใจง่าย โดยสอดแทรกภาษาจีนไปเล็กน้อยเพื่อให้เข้าใจภาพยิ่งขึ้น นับเป็นความท้าทายอย่างมากของวิทยากร แต่นั่นก็เพื่อเป็นโอกาสและผลประโยชน์ของน้อง ๆ นักศึกษาเอง เราก็พยายามอย่างเต็มที่ พูดช้า ๆ ชัด ๆ ทีละคำ ค่อย ๆ เดินเรื่องไป รวมทั้งพวกเขาก็ตั้งใจฟังเป็นอย่างมาก บางคนถึงขั้นจดเป็นข้อ ๆ แม้ว่าอาจจะรับข้อมูลไปไม่ได้ทั้งหมด แต่เชื่อว่าความตั้งใจของเขา จะทำให้เขาเปิดรับข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อชีวิตของพวกเขาเอง ไม่ว่าตอนนี้หรือในอนาคต บางคำถามที่ถามมาช่างน่าสนใจ ที่พวกเขาแม้ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ ทำให้ยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องศีลอยู่ และสุดท้ายเขาก็ได้คลายใจว่าจริง ๆ ศีลก็ไม่ใช่เรื่องบีบคั้น แต่มันเป็นเรื่องของการฝึกฝน... ฝึกฝนจนได้นิสัยใหม่ นิสัยที่ไม่ต้องไปเบียดเบียนใคร เป็นนิสัยที่ทำแล้วมีแต่ความสุข และเป็นนิสัยที่นำไปสู่การหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดในที่สุด ต้องขอขอบคุณทีมงานที่สถาบันภาษาและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยมหิดล รวมถึงครูอาจารย์ทุกท่านที่เสียสละและเปิดโอกาสให้ทีม CSR เข้าไปบรรยายในครั้งนี้ มีศิษย์เก่าท่านหนึ่งพูดกับผมว่า ‘เห็นดูเด็ก ๆ กันอยู่ ผมก็ไม่คิดว่าจะพูดอะไรแบบนี้ได้ แต่ตอนนี้ทำให้ผมเข้าใจในธรรมมากยิ่งขึ้นจริง ๆ ไม่คิดว่าพวกคุณจะทำได้’ ผมก็ยินดีที่ได้รับโอกาสนี้เช่นกัน วิทยากรและทีมงาน CSR ทุก ๆ ท่านก็พร้อมสละเวลาเพื่อความดีงามของผู้อื่นเสมอครับ” คำกล่าวจากทีมงาน CSR “แววตาของน้อง ๆ ชาวจีนผู้ที่แม้มิได้นับถือศาสนาพุทธ แต่จดจ่อตั้งใจฟังพี่วิทยากรอุ๋ยและวิทยากรเอก อีกทั้งการซักถามเพิ่มเติมในประเด็นที่น้องสงสัย ในการนำธรรมะนั้นไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ล้วนยืนยันว่า ‘ศีลธรรม ความดีงามนั้นเป็น universal’ ทำให้ตระหนักแล้วว่า ธรรมะของพระพุทธองค์นั้น เป็นปัจจัตตัง จริงเสมอ รู้ได้ด้วยตัวเอง ทุกเชื้อชาติเข้าใจ นำไปใช้ได้เสมอ ไม่ว่าชนชาติใด ศาสนาใด ย่อมเข้าใจด้วยหัวใจของเขา เราเพียงแต่แค่อาศัยภาษาเป็นสื่อกลาง ซึ่ง ‘ธรรมะก็จัดสรร’ ให้วิทยากรของเราที่มิเพียงใช้ใจสื่อถึงใจ แต่ยังเป็นผู้ที่สามารถใช้ภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่ว งานนี้จึงได้หัวใจของน้อง ๆ และทีมงานไปเต็ม ๆ เลยค่ะ” “รู้สึกดีใจและประทับใจในสถานที่จัดบรรยาย น้องนักศึกษา และทีมงานทุกท่านในจิตอาสาเสียสละ ไม่ว่าจะเป็นทีมงานของมหาลัยที่คอยอำนวยความสะดวกให้ทุกอย่าง ห้องบรรยายถูกจัดเตรียมอย่างเรียบร้อย คณะผู้บริหารและอาจารย์ยิ้มแย้มแจ่มใส ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ทางทีมงาน CSR ต่างคนต่างรู้หน้าที่ในงานบรรยาย จัดของเตรียมของ และเตรียมตัวสำหรับการบรรยายอย่างรวดเร็ว แต่ที่ประทับใจที่สุดคือน้อง ๆ นักศึกษาชาวจีนแต่ฟังภาษาไทยได้ สิ่งที่สัมผัสได้อย่างชัดเจนคือ น้อง ๆ ตั้งใจฟังกันอย่างมาก ไม่ว่าท่านวิทยากรเดินไปทางไหนน้อง ๆ ก็จะคอยมองตามตั้งใจกันตลอด” ……………………………………………………………… สรุปการบรรยายโดย : คุณจิติกานต์ จินารักษ์ และคุณลัคพงศ์ เพิ่มพูน

bottom of page