พระพุทธเจ้า
ทั่วโลก รู้จักพระพุทธเจ้าในฐานะผู้รู้แจ้งพระองค์คือผู้รู้แจ้งความจริงของจักรวาลและความเป็นจริงของมนุษย์ คำสอนของพระองค์ทำให้คนได้หลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง พระเมตตาพระมหากรุณาธิคุณได้นำมาซึ่งความสงบสุขให้แก่โลก
"ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงไป ตลอดเวลา..."
-พระพุทธเจ้า
"Respect is common sense"
"เราไม่เพียงแต่ปกป้องพระพุทธศาสนา
แต่เราปลุกจิตสำนึกที่ดีงามในความเป็นมนุษย์"
-อาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล
Highlights
"Do they really have to do this?" ทำกันขนาดนี้เลยหรือ?
คำสอนอานาปานสติ
"อานาปานสติโดยอาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล"
"จิตวิญญาณเป็นส่วนสำคัญที่สุดของชีวิต
เพราะหากกายไม่มีจิตอาศัยอยู่
กายนั้นก็เป็นเพียงวัตถุหรือเรียกว่า ศพ
แล้วทำไม มนุษย์จึงไม่ให้ความสำคัญต่อจิตวิญญาณ..."
ความจริงเกี่ยวกับเตโชวิปัสสนา และอาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล"
เชิญชมวีดีโอ 7.30 นาที เพื่อค้นหาความจริงด้วยตัวท่านเอง
สายธรรมเตโชวิปัสสนาคืออะไร ? และสอนอะไร?
สำหรับผู้ที่ไม่เคยเข้ามาสัมผัสย่อมไม่รู้แน่ชัด การฟังคำบอกเล่าอย่างฉาบฉวยอาจนำมาสู่การได้รับข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง สำหรับผู้ที่มากด้วยอคติก็ใช้จินตนาการวิพากษ์วิจารณ์ บิดเบือนความจริงและปรามาสให้เกิดเป็นบาปและภัยเวรแก่ตน ทั้งๆ ที่ไม่เคยแม้แต่จะเข้ามาที่ธรรมสถาน ไม่รู้แน่ชัดว่าท่านอาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล สอนอะไร
วีดีโอนี้จะทำให้ท่านรู้จักสายธรรมเตโชวิปัสสนา ที่เป็นความจริงและความสัตย์
สำหรับท่านที่อยากทราบว่า เมื่อปฏิบัติเตโชวิปัสสนาแล้วได้ผลอย่างไร
เชิญเข้าไปอ่านประสบการณ์การภาวนาของผู้ที่ปฏิบัติมาแล้วได้ที่ exp.techovipassana.org
หากท่านสนใจอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคอร์สอบรม
เชิญแวะชมที่ www.techovipassana.org
What or Who is Buddha?
พระพุทธเจ้าคือใคร
พระองค์คือผู้รู้แจ้ง ทรงสอนให้ผู้คนรวมถึงชาวพุทธ ได้ทำความดีและทรงชี้ทางให้พ้นทุกข์
พระพุทธเจ้าสอนอะไร
พระองค์ทรงสอนให้เข้าถึงความจริง 4 ประการคือ
1. ทุกข์
2. สาเหตุแห่งทุกข์
3. การดับแห่งความทุกข์
4. วิธีการดับทุกข์
พระพุทธเจ้าแตกต่างจากศาสดาท่านอื่นๆ อย่างไร
ศาสดาในทุกศาสนาล้วนสอนให้คนมีความเมตตา พระพุทธองค์ก็ทรงสอนเช่นนั้น แต่ความต่างก็คือ พระพุทธเจ้าสอนให้ตระหนักถึงความทุกข์ที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ คือการเกิด การแก่ การเจ็บ การตาย ทรงชี้ให้เห็นถึงความทุกข์อันเกิดจากความไม่เที่ยงแท้ และสอนวิธีการดับทุกข์นั้น
คำสอนหลักของพระองค์คืออะไร
1. การไม่ทำบาปทั้งปวง
2. การทำความดีให้ถึงพร้อม
3. การชำระจิตให้บริสุทธิ์
การชำระจิตให้บริสุทธิ์ทำอย่างไร และทำไมจิตจึงถือว่าเป็นสิ่งสกปรก
จิตถือว่าเป็นสิ่งสกปรกเพราะมนุษย์ชอบปรุงแต่งอารมณ์ไปกับสิ่งที่เข้ามากระทบใจ ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์โกรธ เกลียด ความอยากได้ ไม่อยากได้ความรู้สึกที่ไม่บริสุทธิ์เหล่านี้เรียกว่า กิเลส แบ่งเป็น 3 อาการคือ ความโลภ โกรธ หลง ซึ่งทำให้จิตเศร้าหมอง จิตบริสุทธิ์จะปราศจากซึ่งความรู้สึกเหล่านี้
การชำระจิตให้บริสุทธิ์
พระพุทธองค์ทรงสอนให้หยุดทำปฏิกริยากับสิ่งที่เข้ามากระทบใจ ให้ตั้งตนเป็นเพียงผู้รับรู้อย่างเดียว ไม่ปรุงแต่งใจ ซึ่งความรู้และวิธีการปฏิบัติอันลึกซึ้งจนถึงขั้นหลุดพ้นจากความทุกข์โดย สิ้นเชิงสามารถเรียนรู้ได้จาก การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
ทำไมพระพุทธรูปจึงดูให้ความรู้สึกสงบ
เพราะจิตใจของพระองค์ปราศจากความโกรธ ความเกลียด ปราศจากตัณหาคือความทะยานอยาก ซึ่งตัณหานี้ พระองค์ตรัสว่าเป็นสาเหตุแห่งทุกข์ เมื่อจิตพระองค์ปราศจากตัณหา จิตจึงเปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณาที่สะท้อนออกมาในพระรูปของพระองค์
Dos and Don'ts on Buddha
เรามักพบเห็นการปฏิบัติต่อพระรูปของพระพุทธเจ้าที่ไม่บังควร ผู้กระทำเช่นนั้นล้วนมองข้ามความรู้สึกของชาวพุทธนับพันล้านคน
ทำไมพระรูปของพระพุทธเจ้าจึงมีความสำคัญ
เมื่อพระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์ชีพอยู่ พระองค์ไม่เคยขอให้ใครทำรูปปั้นหรือเทิดทูนพระองค์ ด้วยภาพต่างๆ ตรงกันข้าม พระองค์กลับตรัสสอนให้ผู้คนไม่ยึดมั่นถือมั่น แม้กระทั่งในตัวพระองค์เอง พระองค์ตรัสว่าวิธีที่ดีที่สุดที่จะแสดงความเคารพพระองค์คือการปฏิบัติตามคำสอน และเมื่อพระองค์เสด็จปรินิพพานแล้ว คำสอนทั้งหมดก็จะเป็นตัวแทนในการเข้าถึงพระองค์
100 ปีหลังจากที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ชาวพุทธทั้งหลายได้มีความคิดถึงพระองค์ยิ่งนัก ผู้ที่ไม่เคยได้เห็นพระองค์ก็มีความสงสัยว่า พระพุทธเจ้ามีพระวรกายอย่างไร
ชนเหล่านั้นจึงขอให้เทวดาที่เคยเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า จำแลงกายเป็นพระพุทธเจ้าให้ดู เมื่อเทวดาตนนั้นแสดงให้ดู ผู้คนก็มีจิตปิติยินดี และปั้นพระรูปของพระพุทธเจ้าตามที่ได้เห็น นับแต่นั้นมา พระพุทธรูปได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์สำคัญของชาวพุทธส่วนใหญ่มีไว้สักการะบูชาเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและคำสอน ด้วยความเคารพศรัทธาสูงสุด
บางคนเคารพ บางคนเพิกเฉย
แม้ชาวพุทธจะมีความเคารพสักการะต่อพระพุทธรูปซึ่งถือเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้าเพียงใด แต่ก็มีผู้คนมากมายได้ประพฤติย่ำยีต่อพระรูปและพระพุทธรูป โดยไม่คำนึงถึงหัวใจชาวพุทธแม้แต่น้อย ข้อปฏิบัติเหล่านี้ จึงทำขึ้นเพื่อชี้ทางให้ท่านได้เข้าถึงวิธีการปฏิบัติอันถูกต้องต่อพระรูปของพระพุทธเจ้า
Dos with regard to Buddha
1. มีความเคารพ
การทำความเคารพทำได้สองวิธีคือ
ภาษากาย คือ การไหว้หรือการแสดงท่าทีที่อ่อนน้อม
ภาษาใจ คือ การเคารพด้วยใจที่นอบน้อม
2. ช่วยแก้ไขสิ่งที่ผิดให้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง
เช่น หากท่านเห็นพระพุทธรูป พระเครื่อง รูปพระพุทธเจ้า ถูกวางหรือตกอยู่ในที่ที่ไม่สมควรเช่น ทางเดินเท้า ตกอยู่บนพื้น วางไว้ในห้องน้ำ บนเก้าอี้ ฯลฯ และในที่ที่ไม่สมควรต่างๆ ให้ช่วยนำไปอยู่บนที่สูงเช่น ชั้นวางของหรือสูงกว่านั้น
3. ให้ความรู้
ในฐานะชาวพุทธ ท่านควรสามารถให้ความรู้คร่าวๆ ได้ว่าพระพุทธเจ้าคือใคร
สำหรับผู้ที่ไม่ใช่ชาวพุทธ ก็ลองฝึกตอบสั้นๆ ว่า "พระพุทธเจ้าคือผู้รู้แจ้ง พระองค์สอนให้คนทำความดี เหมือนที่พระเจ้าก็สอนเช่นกัน"
Don'ts with regard to Buddha
1. ห้ามไม่ให้ประพฤติดูหมิ่นหรือกระทำไม่ดีใดๆ ต่อพระพุทธเจ้า
หากท่านไม่ปรารถนาจะแสดงความเคารพต่อพระพุทธเจ้า อย่างน้อยก็อย่าประพฤติไม่สมควร ไม่มีใครเลย ที่จะพึงประพฤติหยาบคายหรือแสดงกริยาไม่ดีต่อบิดาของเพื่อน ด้วยหลักการนี้ ก็ไม่มีใครเลย ที่จะพึงประพฤติไม่ดีต่อพระรูปของพระพุทธเจ้า ซึ่งชาวพุทธทั้งหลายนับถือพระองค์ดุจดังพุทธบิดา ผู้นำทางศาสนาทั้งหลาย ล้วนได้รับการเคารพนอบน้อมทั้งสิ้น เช่นเดียวกัน โลกก็พึงแสดงความนอบน้อมต่อ พระพุทธเจ้าไม่แตกต่างไปจากพระศาสดาในศาสนาอื่น
2. ไม่วางหรือนำพระรูปของพระพุทธเจ้าไปไว้ในที่ๆ ไม่สมควร
เช่น ไปสกรีนไว้ในผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดปาก ผ้าขนหนู พรมเช็ดเท้า พรมต่างๆ หรือในอุปกรณ์การทำความสะอาดทั้งหลาย รวมถึงของเล่น เฟอร์นิเจอร์ และไม่นำพระรูปของพระพุทธเจ้าไปไว้ในส่วนล่างของร่างกาย เช่น กางเกง กระโปรง รองเท้า ฯลฯ ชาวพุทธที่แท้จริง จะรู้สึกทุกข์ใจ และไม่สบายใจอย่างยิ่ง หากเห็นผู้ใดกระทำย่ำยีต่อพระรูปของพระศาสดาเช่นนี้ การกระทำดังกล่าว อาจนำมาซึ่งความขัดแย้งที่ถูกยกระดับให้บานปลายขึ้น
3. ไม่วางพระพุทธรูป หรือรูปปั้นพระพุทธเจ้าเป็นดั่งเฟอร์นิเจอร์ หรือของตกแต่ง
เช่น ไม่เอาพระพุทธรูปหรือรูปปั้น ไปวางไว้ที่โต๊ะกลางของชุดเฟอร์นิเจอร์ ไม่วางไว้ในห้องน้ำ ในบาร์ หรือร้านอาหาร ประดุจพระพุทธรูปเป็นเพียงของตกแต่ง
4. ไม่ปฏิบัติต่อพระพุทธรูปหรือรูปปั้นพระพุทธเจ้าเป็นดั่งสินค้า
ท่านอาจสงสัยว่า ทำไมแม้ในเมืองพุทธ ก็มีร้านขายพระพุทธรูปและรูปปั้นพระพุทธเจ้าในลักษณะของการมีไว้ประดับ เป็นเฟอร์นิเจอร์ การที่มีคนทำเช่นนี้ก็แสดงให้ เห็นว่า ในทุกสังคม มีทั้งคนดีและคนไม่ดีปะปนกันไป คนไม่ดีก็จะทำอะไรโดยไม่คำนึงถึง ความรู้สึกของผู้อื่น คำนึงถึงแต่ผลประโยชน์ของตนเป็นหลัก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย และเสียใจที่มีคนทำเช่นนี้ ในบางประเทศ ท่านจะได้เห็นร้านขายพระพุทธรูป ในหลากหลายขนาด ร้านที่ขายพระพุทธรูป ในเมืองพุทธบางร้านถือว่าเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ เพราะเจตนาในการขายและเจตนาของผู้ซื้อ ไม่ได้ขายและให้ซื้อไป เป็นของประดับแต่ผู้ซื้อ ซื้อไปเพื่อนำไปบูชา ที่บ้านหรือในสถานที่อันควร ด้วยจุดประสงค์เพื่อการสักการะบูชา
5. ไม่นำชื่อพระพุทธเจ้าไปใช้อย่างดูถูกดูหมิ่น
เช่น มีภาพยนตร์ฮอลีวู้ดเรื่องหนึ่ง นำชื่อนี้ไปเป็นชื่อสุนัข มีร้านไอศครีมตั้งชื่อร้านว่า Buddhi Belly มีบาร์ตั้งชื่อว่า Buddha Bar
6. ไม่ล้อเลียนพระพุทธเจ้าด้วยเรื่องอื่นใด
เช่น มีภาพยนตร์ฮอลีวู้ดเรื่องหนึ่ง ทำภาพโปสเตอร์โดยมีผู้ชายนั่งอยู่บนไหล่ของพระพุทธรูป
7. ไม่นำรูปพระพุทธเจ้าหรืออื่นใดที่เกี่ยวกับพระพุทธองค์ มาเป็นรอยสักตามร่างกาย